ทนายความ/นักกฎหมาย

ผู้ทำงานเกี่ยวกับกฎหมาย ให้คำปรึกษาและให้บริการทางกฎหมาย รวมถึงการปฏิบัติงานทั่วไปเกี่ยวกับกฎหมาย โดยงานส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของลูกความ

0:00 / 0:00

📃 ลักษณะงาน

ปฏิบัติงานทั่วไปเกี่ยวกับกฎหมาย เช่น ให้คำปรึกษาทางกฎหมาย จัดทำเอกสารเกี่ยวกับกฎหมาย
ให้คำแนะนำแก่ลูกความเกี่ยวกับปัญหาบุคคลและธุรกิจในแง่ของกฎหมาย (สิทธิ และหน้าที่ตามกฎหมาย)
ตรวจสอบเรื่องราวต่างๆ และค้นตัวบทกฎหมายที่จะนำมาใช้โดยการศึกษาประมวล กฎหมาย พระราช กฤษฎีกา เทศบัญญัติ คำพิพากษาของศาลสูงที่มีมาแล้ว และกฎข้อบังคับที่ตราขึ้นไว้
ว่าความ และดำเนินกระบวนการพิจารณาใดๆ ในศาลแทนคู่ความทั้งในคดีแพ่ง และคดีอาญา มีบทบาทในการสร้าง และรักษาความเป็นธรรมให้กับสังคม
มีบทบาทในการคุ้มครอง ดูแลรักษาผลประโยชน์ของบุคคล และองค์กรธุรกิจเอกชนต่าง ๆ
มีบทบาทในการให้คำปรึกษาแนะนำ ในการดำเนินการต่างๆ ให้ถูกต้องตามระเบียบ และกฎหมาย
มีบทบาทเป็นคนกลางเพื่อไกล่เกลี่ยความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์
ทนายความอิสระบางคนอาจรับทำงานสืบสวนให้บุคคลที่ต้องการให้สืบสวน หรือติดตามสิ่งของ หรือบุคคลที่ต้องการค้นหา

📊 ขั้นตอนการทำงาน

รับเรื่องจากลูกความหรือหน่วยงานที่สังกัด
ค้นหาความหมายของกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับ เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินคดี
ใช้ความรู้ทางกฎหมายวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่จะเป็นไปได้ของคดี
ว่าความแก้ต่างคดีให้กับลูกความในชั้นศาล และซักถามคำถามพยานระหว่างการพิจารณาคดี
ค้นหาและแสดงหลักฐาน เพื่อปกป้องลูกความหรือฟ้องร้องดำเนินคดีกับจำเลย

👩🏻‍💻 อาชีพที่ต้องทำงานร่วมกัน

ผู้พิพากษา
เจ้าหน้าที่ในชั้นศาล
อัยการ
ตำรวจ
ทหาร
ราชทัณฑ์
ข้าราชการฝ่ายกฏหมาย
นิติกรตามบริษัท
เจ้าหน้าสินเชื่อ
เจ้าหน้าเร่งรัดหนี้
นักสืบ

🏢 สถานที่และเวลาทำงาน

มีทั้ง 1) งานในออฟฟิศ (ลักษณะเหมือนสำนักงานทั่วไป คือมีโต๊ะประจำของแต่ละบุคคล) สำหรับทำงานตรวจสอบและเตรียมเอกสาร ซึ่งสำนักงานทนายความแต่ละที่จะมีจำนวนคนไม่มากนัก และ2) งานที่ต้องออกไปติดต่อประสานงานนอกสำนักงาน เช่น ศาล สถานีตำรวจ และสถานที่อื่นๆ เพื่อปฏิบัติภารกิจทนายความตามที่ได้รับมอบหมาย
ส่วนใหญ่ทำงานสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง แต่อาจจะต้องทำงานล่วงเวลา หรือเข้าทำงานในวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดบ้าง แล้วแต่กรณี

✅ ความรู้ความสามารถที่ต้องใช้

ใจรักในอาชีพ เพราะเป็นงานที่ต้องมีความเสียสละเพื่อผู้อื่น
ใฝ่หาความรู้รอบตัวอยู่เสมอ
ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียบกพร่องในศีลธรรมอันดี
เป็นคนซื่อตรง ไม่เป็นผู้ได้กระทำการใด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่น่าไว้วางใจในความซื่อสัตย์สุจริต
มีทักษะการฟัง และวาทศิลป์ในการพูด
ชอบท่องจำ เพราะกฏหมายมีมาตราต่างๆ มากมายที่ต้องนำไปใช้ในการทำคดีความ
สำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาตรีทางนิติศาสตร์ หรือประกาศนียบัตรในวิชานิติศาสตร์ ซึ่งเทียบได้ไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี จากสถาบันการศึกษาซึ่งสภาทนายความเห็นว่าสถาบันนั้นมีมาตรฐานการศึกษาที่ผู้ได้รับปริญญาตรี หรือประกาศนียบัตรควรเป็นทนายความได้ และเป็นสมาชิกแห่งเนติบัณฑิตยสภา
เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ต้องเข้ารับการอบรมจากสภาทนายความ โดยอบรมภาคทฤษฎีหลักสูตร 6 เดือน และอบรมภาคปฏิบัติ หลักสูตร 6 เดือน จึงสมัครเข้าสอบขอใบอนุญาตว่าความ (เมื่อผ่านการทดสอบจะได้รับใบอนุญาตว่าความทั่วราชอาณาจักรจากสภาทนายความ)

💵 โอกาส ความท้าทาย และผลตอบแทน

เป็นอาชีพที่เป็นที่ต้องการของสังคมเสมอ โดยเฉพาะในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทนายความจะมีคดีว่าความมากขึ้นเนื่องจากจะมีคดีฟ้องร้องในเรื่องการค้างชำระหนี้มากขึ้น ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับความชำนาญและชื่อเสียงของทนายความแต่ละคนด้วย
โอกาสในสายงานทนายความ สามารถสอบเป็นพนักงานอัยการ และก้าวไปสู่การเป็นผู้พิพากษาได้ และสามารถเข้าสังกัดไปเป็นที่ปรึกษากฎหมายประจำองค์กร บรรษัท ห้างหุ้นส่วน บริษัท นิติบุคคล คณะบุคคล/ เอกชน
ทนายความที่มีความสามารถและมีความรู้ทางกฎหมายระหว่างประเทศอย่างดี อาจได้รับการว่าจ้างให้เป็นทนายความว่าความในต่างประเทศ หรืออาจเป็นตัวแทนของรัฐบาลในการเจรจาทางด้านกฎหมายหรือสิทธิประโยชน์ของประเทศ
เงินเดือนประจำ มีระดับตั้งแต่ 15,000 – 30,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความสามารถ ประสบการณ์ และประเภทของหน่วยงานที่ทำงาน และจะสามารถได้รับเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นเมื่อได้รับใบอนุญาตการเป็นทนายความ
ทนายความอิสระรับว่าความทั่วไป อาจได้รับค่าตอบแทนจากการว่าความ ร้อยละ 10 – 20 ของทุนทรัพย์ในคดีนั้นๆ หรืออาจจะได้รับค่าตอบแทนตามแต่จะตกลงกับลูกความ และขนาดของทุนหรือทรัพย์ในแต่ละคดี

🖥️ ช่องทางการศึกษาความรู้เพิ่มเติม

มัธยมศึกษาตอนปลาย