เทรนเนอร์ออกกำลังกาย

BRAND'S BRAIN CAMP

เทรนเนอร์ออกกำลังกาย

ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำและสอนเกี่ยวกับการออกกำลังกายอย่างถูกวิธีเและเหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพและรูปร่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการลดน้ำหนัก เพิ่มกล้ามเนื้อ หรือปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย

Coach_pana_ed11e94266
  • สอนและควบคุมการออกกำลังกายให้กับลูกค้า โดยใช้เทคนิคและสร้างแรงจูงใจเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าฝึกฝนและมีพัฒนาการด้านสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ให้คำแนะนำด้านโภชนาการหรืออาหารการกินที่เหมาะสมกับเป้าหมายของลูกค้า
  • บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าของลูกค้า เพื่อนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงโปรแกรมการฝึก
  • ประชาสัมพันธ์บริการของตัวเองผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย หรือเว็บไซต์
  1. ประเมินสภาพร่างกาย  ทำการทดสอบทางกายภาพ เพื่อประเมินสภาพร่างกายโดยรวมของลูกค้า เช่น การวัดความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และความอดทน สอบถามเกี่ยวกับประวัติการเจ็บป่วย โรคประจำตัว เป็นต้น
  2. พูดคุยกับลูกค้าเพื่อกำหนดเป้าหมายการออกกำลังกายร่วมกัน เช่น ลดน้ำหนัก เพิ่มกล้ามเนื้อ ปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย เป็นต้น 
  3. ออกแบบหรือสร้างโปรแกรมการออกกำลังกายที่ตรงตามเป้าหมาย โดยคำนึงถึงความสามารถทางกายภาพและข้อจำกัดต่างๆ ของลูกค้า
  4. เริ่มสอนและสาธิต  ท่าออกกำลังกายที่ถูกต้อง ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้เครื่องออกกำลังกายและอุปกรณ์ต่างๆ อย่างปลอดภัย ป้องกันการบาดเจ็บ 
  5. กระตุ้น ให้กำลังใจ ติดตามความคืบหน้า และปรับปรุงแบบแผนฝึกฝนอยู่สม่ำเสมอ 
  6. ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดการสุขภาพ เช่น การนอนหลับ อาหารและโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับลูกค้า เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางสุขภาพที่ตั้งไว้
  1. พนักงานขาย
  2. นักกายภาพบำบัด
  3. นักโภชนาการ
  4. ผู้บริหารฟิตเนส
  • สถานที่ทำงานของโค้ชฟิตเนส มักจะทำงานในธุรกิจด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย เช่น ฟิตเนสเซ็นเตอร์ สโมสรสุขภาพ หรืออาจถูกจ้างให้สอนในคลาสออกกำลังกายประจำสถานที่ต่างๆ เช่น ฟิตเนสในโรงแรมหรือคอนโดมิเนียม คลินิกสุขภาพ ฟิตเนสในสถาบันการศึกษา คลาสออกกำลังกายในสวนสาธารณะ 
  • เวลาทำงานของอาชีพโค้ชฟิตเนสไม่แน่นอน และมีความยืดหยุ่นสูงขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น เวลาทำงานตามตารางคลาสสอนออกกำลังกาย  ตามโปรแกรมฝึกที่ตกลงกับลูกค้า หรือประจำในฟิตเนสเซ็นเตอร์
  1. ความรู้เรื่องกายวิภาคและสรีรวิทยาของมนุษย์  เพื่อเข้าใจการทำงานของกล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหวของข้อต่อ และระบบต่างๆ ของร่างกาย
  2. ความรู้เรื่องโภชนาการ  เพื่อให้คำแนะนำเรื่องอาหารที่เหมาะสมกับการออกกำลังกายและเป้าหมายของลูกค้า
  3. ความรู้เรื่องการออกกำลังกาย  เช่น การฝึกฝนแบบคาร์ดิโอ, การฝึกฝนแบบฟิตเนส, การยืดเหยียด, การฝึกกล้ามเนื้อ เป็นต้น
  4. ทักษะการออกแบบโปรแกรมฝึก  เพื่อสร้างโปรแกรมฝึกที่เหมาะสมกับเป้าหมายและความสามารถของลูกค้า
  5. ทักษะการใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายอย่างถูกวิธี เพื่อให้ปลอดภัยกับผู้เล่นและบำรุงรักษาเครื่องไปในตัว 
  6. ทักษะการสร้างความสัมพันธ์  เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจและไว้วางใจ
  • ผลตอบแทนของโค้ชฟิตเนสแตกต่างกันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น จำนวนคลาสที่สอน ประสบการณ์ ขนาดของฟิตเนสเซนเตอร์ โดยมีรายได้ทั้งในรูปแบบเงินเดือนประจำเฉลี่ย 20,000-50,000 ต่อเดือน หรืออาจเป็นการจ้างรายชั่วโมง โดยเฉลี่ยอาจอยู่ในช่วงประมาณ 600 – 2,000 บาทต่อชั่วโมง 
  • โค้ชฟิตเนสที่รับลูกค้าฝึกสอนส่วนตัว อาจมีรายได้สูงถึง 70,000 บาท หรือมากกว่านั้นต่อเดือน ขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าและอัตราค่าบริการ
  • ตั้งแต่โลกประสบกับเหตุการณ์ระบาดของโควิด 19 ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น อาชีพโค้ชฟิตเนสเป็นที่ต้องการมากขึ้นเพราะผู้คนหันมาออกกำลังกาย
  • การเติบโตในอาชีพ (Career Path) ของ “โค้ชฟิตเนส” มีดังนี้
    • โค้ชฟิตระดับเริ่มต้น (Junior level)
    • โค้ชฟิตเนสระดับเชี่ยวชาญ (Senior level)
    • ผู้จัดการศูนย์ฟิตเนสเซ็นเตอร์  (Fitness Manager)
    • หรืออาจลงเรียนเฉพาะทางเพื่อเป็นเทรนเนอร์ส่วนบุคคล หรือประกอบธุรกิจด้านการออกกำลังกายได้ 
  • ความท้าทายของอาชีพ “โค้ชฟิตเนส” คือ 
    • โค้ชฟิตเนสต้องเข้ารับการทดสอบความรู้เพื่อรับใบประกาศนียบัตรวิชาชีพหมวดผู้ฝึกสอนการออกกำลังกาย เพื่อสร้างความเชื่อถือในการประกอบอาชีพ
    • ลูกค้าแต่ละคนที่มีความต่างกันในสุขภาพและความต้องการ โค้ชต้องสามารถปรับตัวและสร้างโปรแกรมที่ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคลได้ 
    • โค้ชฟิตเนสจะต้องคอยสร้างแรงบันดาลใจและเป็นต้นแบบในการรักษาสุขภาพให้กับลูกค้า จึงต้องดูแลบุคลิกภาพของตัวเองตลอดเวลา
  • ช่อง YouTube ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอาชีพโค้ชฟิตเนส
Brands_Logo
Depa
X-twitter Youtube Line Instagram Tiktok

เมนู