Corporate Trainer / Learning & Development Specialist (สอนพัฒนาทักษะให้พนักงาน) 

BRAND'S BRAIN CAMP

Corporate Trainer / Learning & Development Specialist (สอนพัฒนาทักษะให้พนักงาน) 

ผู้ทำหน้าที่ออกแบบการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะของพนักงานในเชิงเทคนิคและทักษะที่จำเป็น เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเติบโตตามสายอาชีพ 

Corporate Trainer / Learning & Development Specialist (สอนพัฒนาทักษะให้พนักงาน)
  • ดูแลเรื่องการฝึกอบรมให้กับพนักงานและบริษัทในเครือให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน 
  • สร้าง คิดริเริ่มการจัดกิจกรรมและการฝึกอบรมที่มีความจำเป็นและเกี่ยวข้องกับองค์กร ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น สัมมนา Workshopปฏิบัติการ คอร์สอบรม ฯลฯ 
  • ร่วมมือกับฝ่ายบุคคล (HR) จัดทำเรื่องการบริหารบุคคล ในการค้นหา ดึงดูด พัฒนา และรักษาพนักงานที่มีความสามารถสูงไว้กับองค์กร (Talent Management) 
  • ต่อยอดความรู้ และความสามารถของคนในองค์กรเพื่อเสาะหาและส่งเสริมพนักงานดีเด่น 
  • ประเมินผลและติดตามการจัดอบรมตามระยะเวลา เช่น ครึ่งปีและปลายปี เพื่อนำผลการประเมินบุคคล (Personal Development Plan) มาบันทึกและติดตามความก้าวหน้าต่อไป 
  • วางงบประมาณประจำปีของการฝึกอบรม 
  • ประสานงานกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อค้นหาบุคลากรหน้าใหม่ที่สนใจเข้ามาเป็นพนักงานในรอบถัดไป 
  1. วางแผน ก่อนที่จะเกิดการอบรมว่าจะต้องอบรมพนักงานแผนกไหน มีเป้าหมายเพื่ออะไร รูปแบบการอบรมเป็นอย่างไร และรายละเอียดอื่น ๆ เช่น ระยะเวลา สถานที่ การวัดและประเมินผล 
  2. ขออนุมัติงบประมาณ เพื่อจัดสรรในการจัดกิจกรรมอบรม
  3. ประสานงานเจ้าหน้าที่ในส่วนต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินงานก่อนอบรมเป็นไปอย่างราบรื่น เช่น ประสานหาห้องประชุม ประสานหาวิทยากรในประเด็นการอบรม เป็นต้น 
  4. ติดตามและอัปเดตรายชื่อพนักงานล่วงหน้า เพื่อยืนยันจำนวนก่อนที่จะอบรม
  5. เตรียมอุปกรณ์และสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับเนื้อหาการอบรม ทั้งรูปแบบเอกสารและไฟล์ออนไลน์ 
  6. ดำเนินการจัดอบรม ตามเนื้อหาที่เตรียมไว้ 
  7. สังเกตการณ์การฝึกอบรมของแต่ละแผนก ว่ามีการสอนเป็นอย่างไร เพื่อเรียนรู้และนำมาปรับปรุง
  8. ประเมินผลการอบรม ผ่านการสำรวจความพึงพอใจ หรือวัดการเรียนรู้ของผู้เข้าร่วม
  1. เจ้าหน้าที่แผนกบุคคล  
  2. วิทยากรผู้เชี่ยวชาญในแขนงต่าง ๆ 
  3. พนักงานบัญชี
  • สถานที่ทำงาน  ทำงานได้ในทุกประเภทธุรกิจ  โดยเฉพาะองค์กรที่มีพนักงานจำนวนมาก เช่น ธนาคาร บริษัทเทคโนโลยี โรงงานอุตสาหกรรม บริษัทด้านพลังงาน โลจิสติกส์ ฯลฯ ซึ่งจะมีทีม HRD เป็นของตัวเอง หรือทำงานในบริษัทที่ปรึกษา หรือเทรนนิ่งเฮาส์ ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านการพัฒนาและอบรมทักษะให้กับลูกค้าหลากหลายองค์กร 
  • โดยทั่วไปทำงานที่ออฟฟิศ มักจะมีโต๊ะประจำที่แผนก HR หรือ Learning & Development หากมีการจัดอบรมหรือกิจกรรมนอกสถานที่ เช่น ค่ายอบรม การพัฒนา leadership ก็อาจต้องทำงานนอกสถานที่ เช่น ที่โรงแรม รีสอร์ตหรือศูนย์อบรมต่างจังหวัด
  • เวลาทำงาน  โดยทั่วไปเป็น วันจันทร์–ศุกร์ ตามเวลาทำงานปกติ (ประมาณ 9.00–18.00 น.) หากมีการจัดอบรมพิเศษในวันหยุดหรือช่วงเย็น อาจต้องทำงานนอกเวลา หรือเดินทางไปต่างจังหวัด
  1. ความสามารถในการสื่อสาร การพูด และการนำเสนอ
  2. ความสามารถด้านออกแบบการเรียนรู้ และโปรแกรมฝึกอบรม 
  3. มีทักษะและความรู้เรื่องการใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้ เช่น ความรู้ด้านเครื่องมือ E-learning หรือ Learning Management System 
  4. ทักษะความการยืดหยุ่น สามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหน้างานได้ 
  5. ความรู้ด้านการวัดและประเมินผล 
  6. ความรู้ในบริบทขององค์กร เข้าใจทิศทางธุรกิจ โครงสร้างองค์กร และสมรรถนะที่จำเป็นในแต่ละตำแหน่งงาน
  • ผลตอบแทน เงินเดือนขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ความรับผิดชอบและขนาดขององค์กร 
    • ถ้ามีประสบการณ์ด้าน Training เพียงอย่างเดียว เงินเดือนอาจประมาณที่ 30,000-40,000 บาทต่อเดือน
    • ถ้ามีประสบการณ์ทั้งด้าน Training และ HR เงินเดือนอาจประมาณที่ 50,000 – 60,000 บาท 
    • หากทำงานในองค์กรนานาชาติ ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการอบรม ก็อาจมีผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าการฝึกอบรมทั่วไป 
  • โอกาสและการเติบโตของอาชีพนักพัฒนาทักษะให้พนักงาน 
    • เติบโตในสายงานอบรม โดยการเพิ่มความสามารถด้าน HR หรือภาษาอังกฤษ ให้มีความเชี่ยวชาญมากยิ่งขึ้น เช่น จาก Corporate Trainer เป็น Corporate Training Manager เป็นต้น
    • เติบโตในองค์กรขนาดใหญ่ขึ้น เช่น จากเดิมดูแลพนักงาน 40-50 คน ขยายไปเป็น ดูแลพนักงาน 100 – 250 คน 
    • เปิดธุรกิจด้านการอบรม โดยการสร้างตัวตนและความเชี่ยวชาญของตนเอง เพื่อเปิดบริษัทอบรมในแบบของตนเอง 
  • ความท้าทายของอาชีพนักพัฒนาทักษะให้พนักงาน
    • การสื่อสารภาษาอังกฤษ เนื่องจากพนักงานและลูกค้าบางรายเป็นชาวต่างชาติ ดังนั้น ต้องทักษะภาษาอังกฤษในระดับชำนาญ เพื่อใช้ในการสื่อสาร
    • ต้องสามารถสื่อสารเนื้อหาที่ซับซ้อนให้ผู้อบรมเข้าใจง่าย  บางองค์กรอาจกำหนดเนื้อหาที่มีความซับซ้อน ยาก และเป็นเรื่องใหม่สำหรับพนักงาน หน้าที่ของนักพัฒนาทักษะจะต้องสื่อสารเนื้อหาเหล่านี้ให้ออกมาเข้าใจง่าย
    • พัฒนาหลักสูตรให้ทันยุคสมัย ต้องอัปเดตเนื้อหาให้สอดคล้องกับทักษะที่องค์กรต้องการ ทันกระแสโลก โดยคงความสนุก เข้าใจง่าย 
    • เรียนรู้วัฒนธรรมการทำงานที่หลากหลายขององค์กร เนื่องจากบางครั้ง นักพัฒนาทักษะอาจถูกส่งตัวไปฝึกอบรมต่างสาขา ทำให้ต้องเรียนรู้วัฒนธรรม รวมถึงลักษณะและความต้องการของพนักงานที่หลากหลาย เช่น หากต้องไปฝึกอบรมให้คนในโรงงานอุตสาหรกรรม ที่มีเวลาน้อย นักพัฒนาทักษะต้องปรับการอบรมให้กระชับ สั้น เข้าใจง่าย หรือหากต้องอบรมให้ชาวต่างชาติ ต้องสื่อสารภาษาอังกฤษให้พวกเขาเข้าใจเป้าหมายองค์กร
  • ช่องทาง Youtube ที่เกี่ยวกับอาชีพ นักพัฒนาทักษะให้พนักงาน 
  • พี่ต้นแบบอาชีพนักพัฒนาทักษะให้พนักงาน  [สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568]
Brands_Logo
Depa
X-twitter Youtube Line Instagram Tiktok

เมนู