นักพัฒนาชุมชน

BRAND'S BRAIN CAMP

นักพัฒนาชุมชน

ผู้ที่เป็นเพื่อนกับชุมชน ที่คอยช่วยเหลือ อยู่ข้าง ๆ ทั้งในยามทุกข์และสุข

House_searching_pana_cee54bcf84
  • เรียนรู้และทำความรู้จักชุมชน เก็บข้อมูล ประเมินสถานการณ์และปัญหาในชุมชน 
  • ทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน เพื่อให้สังคมดีขึ้นมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น

โดยทั่วไปมีขั้นตอนในการทำงานดังนี้

  • รับข้อมูลเบื้องต้นก่อนลงไปในพื้นที่ และศึกษาเรียนรู้ ทำความรู้จักชุมชน รวมถึงบริบทและภาพรวมของชุมชนเมื่อลงไปในพื้นที่
  • เข้าหาคนในชุมชน แนะนำตัว สร้างความสัมพันธ์ สร้างความไว้ใจ เก็บข้อมูลเพิ่มเติม
  • วิเคราะห์สถานการณ์ แจกแจงปัญหาที่พบในชุมชน 
  • วิเคราะห์แต่ละปัญหา วิธีการแก้ไข แบ่งงาน หาหน่วยงานหรือทีมงานที่จะช่วยสนับสนุน
  • เลือกปัญหาแรก (แก้ทีละปัญหา) ที่ต้องการจะแก้ร่วมกันกับชุมชน
  • ประสานกับชุมชน ดำเนินการและสนับสนุนการแก้ปัญหาร่วมกับชุมชน 
ขึ้นอยู่กับปัญหาหรือประเด็นที่ทำงาน โดยทั่วๆ ไปต้องทำงานประสานกับอาชีพต่างๆ เช่น
  1. หน่วยงานการปกครองของรัฐ เช่น เจ้าหน้าที่อำเภอ ปลัดอำเภอ การปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น
  2. หน่วยงานรัฐ เช่น กระทรวงมหาดไทย กรมที่ดิน เป็นต้น
  3. ทนายความ
  4. สถาปนิก หรือ สถาปนิกชุมชน
  5. วิศวกร
  6. สื่อมวลชน
  • เวลาทำงานไม่เป็นเวลา ขึ้นกับตารางชีวิตของกลุ่มคนที่ต้องไปทำงานด้วย เช่น ชุมชนในกรุงเทพฯ ที่ทำงานในช่วงเวลากลางวัน นักพัฒนาชุมชนต้องไปลงพื้นที่ในช่วงเวลากลางคืน ชุมชนมุสลิมจะว่างวันศุกร์ กลุ่มคนทำงานกลางคืนจะว่างช่วงบ่าย เป็นต้น 
  • ส่วนเวลาในการติดต่อเอกสาร หรือองค์กรต่าง ๆ มักทำในตอนเช้า หรือเวลาทำการขององค์กรนั้น ๆ
  • สถานที่ทำงานมีทั้งการลงพื้นที่ และการทำงานในออฟฟิศ
    • งานลงพื้นที่ สถานที่ทำงานแล้วแต่พื้นที่ทำงาน เช่น หมู่บ้านชาวประมง ชุมชนแออัด หมู่บ้านในภูเขา เป็นต้น โดยทางองค์กรหรือแหล่งทุนจะสนับสนุนค่าที่พักและค่าอาหารให้
    • ทำงานในออฟฟิศ เช่น งานที่ต้องประชุมกับทีมงาน สรุปบทเรียน สรุปค่าใช้จ่าย ประสานงาน งานเอกสาร การเงิน ขึ้นอยู่กับข้อตกลงและการออกแบบการทำงานของตนเอง ว่าต้องเข้าออฟฟิศหรือไม่ อย่างไร
  • หากทำงานลงพื้นที่ ต้องทำงานตลอดเวลาที่มีงาน ไม่มีวันหยุดราชการหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ 
  • สามารถลางานเพื่อพักผ่อนได้ได้ แต่ต้อง stand by พร้อมตลอด เพราะชุมชนไม่ได้รับรู้ถึงการลาหยุดพักของนักพัฒนาชุมชน 
  1. สิ่งสำคัญที่สุด ต้องมีใจ และต้องมีความกล้าในการลุกขึ้นมาเรียกร้องความถูกต้อง
  2. มีความรู้เรื่องโครงสร้างทางสังคม บริบททางสังคม ความรู้เรื่องชุมชน เรื่องมนุษย์
  3. มีความรู้เรื่องอื่น ๆ เช่น ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี เป็นต้น
  4. มีรูปแบบการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง พร้อมจะเรียนรู้ไปกับคนใหม่ ๆ ที่ได้เจอ
  5. มีทักษะการวิเคราะห์ปัญหาและสถานการณ์
  6. มีไหวพริบ สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จัดการหน้างานได้
  7. ทักษะภาษาอังกฤษมีความจำเป็นมาก เพื่อใช้สื่อสารและประสานงานกับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะเมื่อต้องขอความช่วยเหลือ หรือประสานงานด้านวิชาการ 
  8. ทักษะภาษาท้องถิ่นไม่ได้เป็นข้อบังคับ ขอเพียงมีความตั้งใจที่จะสื่อสารและเรียนรู้
  • ไม่มีจำกัดอายุ ทำงานเป็นนักพัฒนาชุมชนได้ตลอดชีวิต
  • ไม่จำกัดสาขาที่เรียน ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา
  • ค่าตอบแทนที่ได้รับ ขึ้นอยู่กับองค์กรที่สังกัด อาจได้รับเป็นเงินเดือนซึ่งพิจารณาตามวุฒิและความสามารถ เงินเดือนวุฒิปริญญาตรี ประมาณ 16,500 บาท หรือได้รับค่าตอบแทนเป็นเบี้ยยังชีพ เงินที่ได้จากโครงการ จากการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ จำนวนไม่แน่นอนและไม่เท่ากันทุกโครงการ 
  • มีลำดับตำแหน่งการทำงาน แล้วแต่สังกัด เช่น
    • ทำงานองค์กร เช่น สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน จะมีระบบเหมือนราชการ เริ่มจาก นักปฏิบัติการชุมชน นักปฏิบัติการชุมชนอาวุโส หัวหน้าปฏิบัติการชุมชน ชำนาญการพิเศษปฏิบัติการชุมชน รองผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการ 
    • ทำงานในมูลนิธิ เป็นนักปฏิบัติการชุมชน กรรมการมูลนิธิ ที่ปรึกษาโครงการ ที่ปรึกษาชุมชนหรือที่ปรึกษาเครือข่าย
    • ทำงานในสถาบันอื่น ๆ ที่ไม่ใช่องค์กรใหญ่ จะเป็นตำแหน่งนักปฏิบัติการชุมชน อาจมีตำแหน่งอื่นพ่วงขึ้นกับความชำนาญหรือตำแหน่งที่ทำงานที่อื่นด้วย เช่น เป็นอาจารย์ด้านวิชาการ เป็นต้น
  • สิ่งที่ต้องแลกมา
    • สุขภาพกาย: ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ จากการทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ
    • สุขภาพจิตใจ: มีความกดดันและความเครียดในการทำงาน เป็นโรคซืมเศร้า
  • ในช่วงโควิดหรือช่วงที่มีภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ นักพัฒนาชุมชนจะมีงานเพิ่มขึ้นมาก เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
  • การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สังคม เทคโนโลยี ไม่ได้มีผลกระทบที่ทำให้นักพัฒนาชุมชนตกงาน ตราบใดที่ยังมีคนมีปัญหา นักพัฒนาชุมชนต้องทำงานต่อไป
    •  

คลองเตยดีจัง

https://www.facebook.com/khlongtoeydeejung/

 

Feel Trip

https://www.facebook.com/FeelTripTH

 

กลุ่มดินสอสี

https://www.facebook.com/dinsorseefans/

 

พลเมืองอาสา

https://www.facebook.com/profile.php?id=100066801588620

 

สามแพร่ง facestreet

https://www.facebook.com/sampraengfacestreet/

 

มัธยมศึกษาตอนปลาย

  • สายวิทย์-คณิต
  • สายศิลป์-คำนวณ
  • สายศิลป์-ภาษา
  • ปวช. หรือเทียบเท่า *บางสถาบันรับสายนี้

ปริญญาตรี เช่น 

  • คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาบ้านและชุมชน
  • คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชาสังคมวิทยาเพื่อการพัฒนา สาขาวิชาวิชาเอกการพัฒนาชุมชนเมือง
  • คณะรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวิชาพัฒนาสังคม
  • คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวิชาการพัฒนาชุมชนและสังคม
  • คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชานวัตกรรมการพัฒนาสังคม
  • คณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชาสหวิทยาการและการพัฒนาท้องถิ่น 
  • คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาการพัฒนาชุมชนและนวัตกรรมสังคม
  • คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ สังคมสงเคราะห์ศาสตรบัณฑิต

ปริญญาโท เช่น 

จบ ป.ตรี สาขาใดก็ได้ แต่ต้องศึกษาเกี่ยวกับ พระราชบัญญัติต่างๆ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ความรู้เกี่ยวกับการทำแผนพัฒนาด้านอื่นๆ เพิ่มเติม 

  • คณะศิลปศาสตร์ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนามนุษย์และสังคม
  • สถาบันวิจัยสังคม ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนามนุษย์และสังคม
  • คณะสังคมศาสตร์ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนาสังคม 
  • คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาชุมชนและสังคม
  • คณะรัฐศาสตร์ ศิลปศาสตรมหาบณฑิต สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนา
  • คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต 

ปริญญาเอก เช่น

  • คณะศิลปศาสตร์ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนามนุษย์และสังคม
  • คณะสังคมศาสตร์ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนาสังคม 
  • คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาสังคม 
  • คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานโยบายสังคม

*ข้อมูล ณ ปี 2567