อัยการ

BRAND'S BRAIN CAMP

อัยการ

เป็นตัวแทนของแผ่นดินในการสั่งฟ้องต่อศาลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา

prosecutor_pana_41391b8f39
  • เป็นตัวแทนประชาชน ฟ้องร้องแทนในกฎหมายที่ประชาชนฟ้องเองไม่ได้ ด้วยการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น สำนักงานอัยการสูงสุด ตำรวจ และทนายความ เพื่อรวบรวมหลักฐานและข้อเท็จจริงเพื่อเสนอให้ศาลพิจารณาว่าผู้ต้องหามีความผิดหรือไม่
  • รักษาผลประโยชน์ของรัฐด้วยการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่หน่วยงานรัฐ รวมถึงตรวจการร่างสัญญาต่างๆ ก่อนลงนาม เป็นตัวแทนของรัฐ หรือทนายความรัฐในการพิจารณาข้อขัดแย้งระหว่างรัฐกับเอกชน
  • ให้คำปรึกษาและบริการช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนประจำสำนักงานอัยการจังหวัด
  1. รับสำนวนคดีจากตำรวจสืบสวน  เพื่อตรวจสอบข้อมูลจากรายงานการสืบสวน  เช่น วันที่เกิดเหตุ ผู้เสียหาย พยาน หรือสถานที่เกิดเหตุ เพื่อดูว่ามีข้อมูลเพียงพอและเป็นหลักฐานที่สามารถใช้ในการดำเนินคดีได้หรือไม่ หากเห็นว่ายังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ก็จะออกคำสั่งให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม
  2. ออกคำสั่งฟ้องเพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาลเพื่อให้ศาลพิจารณาออกหมายศาลเรียกจำเลยมาขึ้นศาลต่อไป
  3. ในศาล  อัยการจะฟ้องให้ศาลฟังเรียกว่าการบรรยายฟ้อง รวมถึงการนำหลักฐานมาอธิบายประกอบการพิสูจน์ข้อกล่าวหา 
  4. ทำรายงานบันทึกคดีเก็บไว้ เรียงลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบในดคีนั้นๆ เพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้า
  1. ทนายความ
  2. ผู้พิพากษา
  3. ตำรวจสืบสวนสอบสวน
  4. เจ้าหน้าที่ศาล
  5. นักสังคมสงเคราะห์หรือนักจิตวิทยา
  • ทำงานในหน่วยงานราชการ เช่น สำนักงานอัยการจังหวัด, สำนักงานอัยการเขต, สำนักงานอัยการประจำศาล, สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ฯลฯ
  • อาจมีผลัดเปลี่ยนเวรกันในวันและเวลาราชการออกไปปฏิบัติภารกิจพิเศษ ทำงานนอกสำนักงาน เช่น ออกไปชันสูตรพลิกศพผู้ตายที่โรงพยาบาลร่วมกับเจ้าหน้าที่นิติเวช, ออกไปคุ้มครองเด็กในฐานะผู้เสียหายร่วมกับเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยา เป็นต้น
  • ทำงานในวันเวลาราชการ คือ วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. (สัปดาห์ละ 35 ชั่วโมงต่อวัน)

1.คุณสมบัติที่ต้องมีเพื่อทำการสอบเข้าเป็นพนักงานอัยการ

  • เรียนจบหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต
  • สอบไล่ได้ตามหลักสูตรของสำนักอบรมกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา (สอบผ่านเนติฯ)
  • มีประสบการณ์ทำงานด้านกฎหมาย
  • มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด
  • มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์

2.มีองค์ความรู้ด้านกฎหมาย  เช่น ประมวลกฎหมายคดีแพ่ง คดีอาญา หลักการพิจารณาคดี กระบวนการทางสิทธิมนุษยชน การจัดทำเอกสารทางกฎหมาย เป็นต้น

3.มีทักษะทางการสื่อสารเพื่อใช้ในการว่าความ 

4.สามารถคิดวิเคราะห์ พิจารณาคดีอย่างถี่ถ้วน 

5.มีทักษะการเขียนที่ดี

6.มีความจำดี

7 .มีความยุติธรรม

  • มีการจัดตั้งศาลยุติธรรมเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับคดีความที่มากขึ้น ทำให้อัยการยังคงเป็นอาชีพที่เป็นความต้องการของตลาด
  • ผู้เข้ามาประกอบอาชีพนี้ต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายระบุไว้เท่านั้น  โดยจะต้องผ่านการสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการอัยการ ซึ่งสนามสอบคัดเลือกของพนักงานอัยการในประเทศไทยมีการแบ่งสนามสอบตามวุฒิการศึกษา 3 สนาม คือ 
    • สนามใหญ่  ผู้สมัครจะต้องเรียนจบปริญญาตรีด้านกฎหมาย  สอบผ่านเนติบัณฑิต และประกอบอาชีพด้านกฎหมาย 2 ปี
    • สนามเล็ก  ผู้สอบจะต้องเรียนจบปริญญาโทด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยในไทย  สอบผ่านเนติบัณฑิต  และประกอบอาชีพด้านกฎหมาย 1 ปี หรือ เป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัฐบาลไม่ต่ำกว่า 5 ปี หรือ เรียนจบปริญญาตรี ด้านกฎหมาย และจบเรียนจบปริญญาโทหรือปริญญาเอกในสาขาอื่น ๆ แต่ต้องประกอบอาชีพด้านที่จบมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี
    • สนามจิ๋ว ผู้สอบจะต้องเรียนจบปริญญาโทด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยต่างประเทศ หลักสูตรไม่น้อยกว่า 2 ปี  หรือเรียนจบปริญญาเอก มหาวิทยาลัยในไทย และประกอบอาชีพด้านกฎหมาย 1 ปี
  • การเติบโตในอาชีพ (Career Path) ของ “อัยการ” จะพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดตามคณะกรรมการอัยการ และเมื่อรับราชการในตำแหน่งอัยการไม่น้อยกว่า 2 ปีจะสามารถสอบเป็นผู้พิพากษาได้ โดยลำดับตำแหน่งข้าราชการอัยการ มี 8 ชั้น มีระดับเงินเดือนรวมเงินประจำตำแหน่ง ดังนี้

(1) อัยการสูงสุดเป็นข้าราชการอัยการชั้น 8 เงินเดือนประมาณ 123,040 บาท

(2) รองอัยการสูงสุด และผู้ตรวจการอัยการ เป็นข้าราชการอัยการชั้น 7 เงินเดือนประมาณ 121,306 บาท

(3) อธิบดีอัยการ อธิบดีอัยการภาค รองอธิบดีอัยการ รองอธิบดีอัยการภาคอัยการพิเศษฝ่ายและอัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เป็นข้าราชการอัยการชั้น 6 เงินเดือนประมาณ 119,670 บาท

(4) อัยการผู้เชี่ยวชาญ เป็นข้าราชการอัยการชั้น 5 เงินเดือนประมาณ 117,610  บาท

(5) อัยการจังหวัด และอัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นข้าราชการอัยการชั้น 4 เงินเดือนประมาณ 104,360 – 115,490 บาท

(6) อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และรองอัยการจังหวัด เป็นข้าราชการอัยการชั้น 3 เงินเดือนประมาณ 102,240 บาท

(7) อัยการประจำกอง และอัยการจังหวัดผู้ช่วย เป็นข้าราชการอัยการชั้น 2 เงินเดือนประมาณ 102,240  บาท

(8) อัยการผู้ช่วย เป็นข้าราชการอัยการชั้น 1 เงินเดือนประมาณ 65,000 บาท

  • ความท้าทายของอาชีพ “อัยการ” 
  • มีผู้สอบแข่งขันเป็นจำนวนมาก
  • ต้องรักษาคุณสมบัติให้ตรงตามกฎหมายเท่านั้น ทำให้ต้องวางแผนเรียน ทำงาน ล่วงหน้า รวมถึงต้องไม่เคยถูกดำเนินคดี หรือมีหนี้สินมาก
  • ต้องทำงานกับองค์ความรู้ด้านกฎหมายที่ซับซ้อนและละเอียดอยู่เสมอ 
  • ต้องทำงานตามระเบียบการและกฎหมายอย่างเคร่งครัดในทุกขั้นตอนของการทำงาน
  • ต้องรักษาความเป็นกลางในกระบวนการยุติธรรม
  • คลิป YouTube ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ “อัยการ” เช่น
  • ช่อง สํานักงานอัยการสูงสุด OAGTH
  • สํานักงานอัยการสูงสุด OAGTH. (2023, July 23).Vlog With Attorney : ฝึกงานกับอัยการ  [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=jC7-1GcPKUI
  • สํานักงานอัยการสูงสุด OAGTH. (2023, Juy 24). One day with Attorney : ตามติดชีวิตอัยการ [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=HTiGPfzP_IA
  • สํานักงานอัยการสูงสุด OAGTH. (2023, october 30).โตขึ้นหนูอยากเป็นอัยการ. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=mqg46lpb02U&t=22s 
  • LearnLaww (2022, August 5).”ก่อนจะเป็นอัยการโบ” มาดูกันว่าโบทำอะไรมาบ้างง [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=68SoXrljzSg
  • Modern Law (2022, March 1). อัยการคืออะไรต่างกับทนายยังไง สอบยากไหมทำยังไงถึงจะได้เป็น [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=JqBYizIDdhU

มัธยมศึกษาตอนปลาย

  • สายวิทย์-คณิต
  • สายศิลป์-คำนวน
  • สายศิลป์-ภาษา

 

ปริญญาตรี เช่น

  • คณะนิติศาสตร์
  • สำนักวิชานิติศาสตร์
  • คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์
  • คณะนิติศาสตร์และการปกครอง
  • คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์
  • คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชานิติศาสตร์
  • คณะสังคมศาสตร์ หลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิต

 

ปริญญาโท/ หลักสูตรเฉพาะ เช่น

  • เนติบัณฑิต
  • หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต

 

ปริญญาเอก เช่น

  • หลักสูตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารกระบวนการยุติธรรม

 

*ข้อมูล ณ ปี 2567