แพทย์ออโธปิดิกส์

BRAND'S BRAIN CAMP

แพทย์ออโธปิดิกส์

แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการวินิจฉัยและรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบโครงสร้างกล้ามเนื้อ ข้อ เส้นเอ็น และกระดูก

Orthopedic_pana_3131e09769
  • วินิจฉัยปัญหาทางกล้ามเนื้อ ข้อ เส้นเอ็น และกระดูกของผู้ป่วย โดยใช้การสอบถามประวัติการเจ็บป่วยของผู้ป่วย การตรวจร่างกาย และรังสีศาสตร์ 
  • ดำเนินการรักษาที่เกี่ยวข้องกับกระดูก ข้อต่อ เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ ด้วยวิธีการต่างๆ ที่เหมาะสมกับสภาวะโรคและอาการ เช่น การผ่าตัด การปรับปรุงโครงสร้างกระดูก ฯลฯ
  • ค้นคว้า วิจัยทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทางกล้ามเนื้อ ข้อ เส้นเอ็น และกระดูกเพื่อพัฒนาการรักษา และวงการแพทย์ให้ดียิ่งขึ้น
  1. การตรวจวินิจฉัย แพทย์ออร์โธปิดิกส์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจสั่งตรวจเพิ่มเติม เช่น เอกซเรย์ MRI หรือ CT scan เพื่อนำข้อมูลมาวินิจฉัยหาอาการและสาเหตุของการผิดปกติที่ชัดเจน
  2. การรักษา  แพทย์ออร์โธปิดิกส์จะเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายและลงมือรักษาตามวิธีการที่เลือก วิธีการรักษาอาจรวมถึงการทานยา การฉีดยา กายภาพบำบัด การใส่เฝือก การผ่าตัด ฯลฯ
  3. การติดตามผล  แพทย์ออร์โธปิดิกส์จะติดตามผลการรักษาของผู้ป่วย เพื่อดูว่าผู้ป่วยตอบสนองต่อการรักษาอย่างไร และอาจปรับเปลี่ยนวิธีการรักษาตามความเหมาะสม
  1. แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู
  2. พยาบาล
  3. เภสัชกร
  4. วิสัญญีแพทย์
  • สถานที่ทำงานของแพทย์  ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกทำงานที่ใด สาขาความเชี่ยวชาญใด ตัวอย่างสถานที่ทำงาน เช่น
    • โรงพยาบาลรัฐ เช่น โรงพยาบาลศูนย์ (โรงพยาบาลจังหวัด) โรงพยาบาลชุมชน
    • โรงพยาบาลเอกชน 
    • คลินิก
    • สถานที่ทำงานเฉพาะทางที่มีฝ่ายงานด้านสุขภาพ เช่น แท่นขุดเจาะ​  เป็นต้น
  • เวลาทำงานคือช่วงเวลาทำการหรือช่วงเวลาทำงานที่กำหนดของสถานที่ทำงาน ตัวอย่างเวลาทำงานในโรงพยาบาลรัฐบาล คือ
    • เวลาทำงานราชการ 7.30 -16.00น. + เวลาลงเวร (ถ้ามี)
    • เวลาเข้าเวรคือ 16.00 ถึง 7.30 น. ของวันรุ่งขึ้น และมาทำงานต่อในเวลาของวันถัดไป หมายถึงต้องทำงานติดต่อกัน  ประมาณ 32 ชั่วโมงถ้ามีเวรในวันนั้น 
    • งานที่ต้องทำในช่วงเวลาอยู่เวรอาจมีมากหรือน้อยก็ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละวัน แล้วแต่ในแต่ละบริบท แต่โดยปกติแพทย์ประจำที่อยู่เวรมักจะค่อนข้างยุ่ง เพราะจะมีคนไข้ที่ต้องดูแลจำนวนมาก
  • อายุรเวชศาสตร์  ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่แพทย์ต้องมี ต้องรู้สาเหตุการป่วย รู้ขั้นตอนที่ต้องดำเนินการต่อไป
  • ความรู้เฉพาะทางด้านออร์โธปิดิกส์ เช่น กลไกการบาดเจ็บ โรคกระดูกและข้อ การวินิจฉัย การรักษา การฟื้นฟูสมรรถภาพ และการดำเนินการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อ ข้อต่อ เส้นเอ็น และกระดูก 
  • มีความตั้งใจที่อยากจะช่วยเหลือผู้ป่วย 
  • ชอบเรียนรู้ตลอดเวลา ชอบหาความรู้
  • มีทักษะการสื่อสาร ต้องสื่อสารทั้งกับผู้ร่วมงานและกับผู้ป่วยได้ชัดเจน เข้าใจ สามารถอธิบาย และประนีประนอมได้
  • มีความอดทนกับปริมาณงานและความรับผิดชอบที่หนักมาก
  • มีความสามารถในการจัดการอารมณ์และความเครียดที่เกิดจากการทำงาน ซึ่งมีความกดดันมาก
  • มีลักษณะอุปนิสัยและทักษะความสามารถเชิงสมรรถนะ (Soft Skill) เช่น การจัดการ การตัดสินใจ การเจรจา การแสดงออกอย่างมีวุฒิภาวะ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องเรียนรู้และสะสมจากประสบการณ์ด้วยตนเอง เพราะการเรียนการสอนของแพทย์มักเน้นที่ความรู้ทางวิชาการ
  • ในที่สุดแล้ว ทักษะต่างๆ ที่จำเป็นนั้นจะขึ้นอยู่กับสาขาความชำนาญเฉพาะทาง เพราะแต่ละสาขาใช้ทักษะที่ต่างกันมาก
  • เรียนมัธยมจบสายไหนมาก็สอบเข้าเรียนต่อแพทย์ในระดับปริญญาตรีได้ โดยต้องสอบให้ครบและสอบผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนด
  • ต้องมีใบประกอบวิชาชีพแพทย์คู่กับวุฒิปริญญา จึงจะสามารถประกอบอาชีพแพทย์ได้
  • การสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ จะมีการสอบความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยแพทยสภา 3 ครั้ง คือ ในขณะที่เรียนอยู่ชั้นปีที่ 3, 5 และ 6 โดยต้องสอบผ่านทั้ง 3 ครั้ง จึงจะได้ใบประกอบวิชาชีพเป็น “แพทย์ทั่วไป”
  • การใช้ทุนของแพทย์ที่เรียนจบแล้วนั้น ขึ้นอยู่กับทุนที่ได้รับ โดยส่วนใหญ่จะต้องทำงานใช้ทุน 3 ปี ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย ตัวอย่างการใช้ทุน เช่น
    • ปีที่ 1 เป็นการทำงานปีแรกหลังเรียนจบ จะถูกเรียกว่าแพทย์ใช้ทุน (Intern ปี 1) หรือแพทย์เพิ่มพูนทักษะ ทำงานใช้ทุนในโรงพยาบาลใหญ่ เพื่อเรียนรู้และทำงานหลัก โดยจะได้วนทำงานในทุกแผนกหลักของโรงพยาบาล ทำตามที่แพทย์ผู้ชำนาญแต่ละสาขามอบหมาย เป็นปี แรกที่ต้องทำหน้าที่แพทย์อย่างเต็มตัว และต้องผ่านปีนี้ไป จึงจะสามารถสมัครเรียนต่อได้เมื่อทำงานใช้ทุนครบ 3 ปี
    • ปีที่ 2 – 3 จะถูกย้ายไปทำงานในโรงพยาบาลชุมชนที่มีขนาดเล็ก และมีความพร้อมในด้านเครื่องมือและจำนวนแพทย์ต่ำกว่าโรงพยาบาลในปีแรก แพทย์ใช้ทุนปี 2 – 3 ต้องรับผู้ป่วยเองเกือบทั้งหมด และประเมินรวมถึงจัดการว่าสามารถช่วยได้ด้วยตนเองหรือต้องส่งต่อ การทำงานใน 2 ปีนี้จะ ต้องทำงานด้วยตนเองมากขึ้น
    • เลือกจังหวัดที่จะไปทำงานใช้ทุนด้วยการจับฉลาก หากเป็นจังหวัดที่มีคนเลือกมาก ก็จะมีความเป็นไปได้ที่จะได้ไปทำงานจังหวัดนั้นๆ น้อยลง
    • การสมัครเพื่อขอรับทุนเพื่อเรียนแพทย์นั้น ต้องตรวจดูและทำความเข้าใจเงื่อนไขการใช้ทุนให้ละเอียดมากๆ เพราะบางโครงการที่เสนอทุนให้นั้นมีข้อกำหนดที่จำกัดมาก เช่น กำหนดให้เรียนต่อเฉพาะทางได้เพียงบางสาขาเท่านั้น หรือไปทำงานใช้ทุนได้เฉพาะที่บางจังหวัดเท่านั้น รวมถึงต้องตรวจดูและพิจารณาค่าชดเชยที่ต้องจ่าย หากตัดสินใจยกเลิกสัญญาทุน
    • หากเรียนแพทย์จากมหาวิทยาลัยเอกชนการไปทำงานหลังเรียนจบไม่จำเป็นต้องจับฉลาก แต่ถ้าหากอยากศึกษาต่อ ก็จำเป็นต้องเข้าโครงการเป็นแพทย์เพิ่มพูนทักษะ
  • เมื่อทำงานใช้ทุนครบ 3 ปีแล้ว อาจเลือกเรียนต่อเฉพาะทางด้านออโธปิดิกส์
  • เมื่อกลับมาเรียนต่อเฉพาะทาง จะถูกเรียกว่าแพทย์ประจำบ้าน (Resident) ซึ่งการเรียนต่อจะเป็นการทำงานจริงและเป็นการเรียนปฏิบัติที่เน้นไปที่สาขานั้นๆโดยเฉพาะ
  • เมื่อเรียนเฉพาะทางจบแล้ว จะถูกเรียกว่าแพทย์เฉพาะทาง (Medical Specialist) ด้านออโธปิดิกส์ ถือว่าเป็นอาจารย์แพทย์ที่มีความชำนาญด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งในการทำงานจริงบางครั้งอาจจำเป็นต้องปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางแผนกอื่นเพื่อการรักษาผู้ป่วยที่ดีที่สุด
  • สามารถศึกษาต่อได้ทั้งในและต่างประเทศ สามารถศึกษาต่อได้ไม่มีที่สิ้นสุด
  • ผลตอบแทนเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 60,000 – 120,000 บาทต่อเดือน  ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่สังกัด โดยแพทย์บางคนอาจมีรายได้เพิ่มเติมจากการเปิดคลินิกเป็นของตัวเอง
  •  ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุมีโอกาสเกิดโรคกระดูกและข้อเสื่อม รวมถึงปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบโครงสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก มากขึ้น จึงต้องการแพทย์ออร์โธปิดิกส์เพื่อรักษาโรคเหล่านี้
  • ปัจจุบันประเทศไทยมีแพทย์ออร์โธปิดิกส์ประมาณ 2,900 คน แต่กระจายตัวอยู่ไม่สม่ำเสมอ ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ทำให้ผู้ป่วยในส่วนภูมิภาคเข้าถึงบริการได้ยาก
  • การเติบโตในอาชีพ (Career Path) ของ “แพทย์ออโธปิติกส์” มีดังนี้
    • สายงานในโรงเรียนแพทย์: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์
    • สายงานในโรงพยาบาลรัฐบาลหรือกระทรวงสาธารณสุข
      • เลื่อนขั้นตามระบบราชการ (นายแพทย์ปฏิบัติการ, นายแพทย์ชำนาญการ,นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ,นายแพทย์เชี่ยวชาญ,นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ)
  • สายงานโรงพยาบาลเอกชน
    • นายแพทย์ปฏิบัติการ
    • หัวหน้าแผนก หรือขึ้นเป็นตำแหน่งผู้บริหาร
  • ความยากและท้าทายของอาชีพ “แพทย์ออโธปิติกส์” คือ
    • บุคลากรทางการแพทย์ในประเทศไทย ต้องประสบกับการทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง จากการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลไม่เพียงพอสำหรับผู้ป่วย ทำให้ผู้ที่เป็นแพทย์อาจต้องทำงานมากว่า 80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
    • ต้องติดตามความก้าวหน้าทางการแพทย์อยู่เสมอ เพื่อให้สามารถรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • แพทย์ออร์โธปิดิกส์ต้องเผชิญกับผู้ป่วยและญาติที่ยากลำบาก เช่น ผู้ป่วยที่ไม่เข้าใจ ผู้ป่วยที่ไม่ยอมรักษา และญาติที่กดดัน
  • สิ่งที่เป็นความเสี่ยงของอาชีพนี้
  • การถูกฟ้องร้องจากผู้ป่วย/ญาติผู้ป่วย กรณีที่ผลการรักษาไม่เป็นไปตามความคาดหวัง
  • ความเครียดจากความกดดันในการรักษาผู้ป่วย การสูญเสียผู้ป่วย หรือการทำงานหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน
  • ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการทำงานหนัก อยู่เวรติดต่อกันเป็นเวลานาน พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • ช่อง YouTube ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอาชีพแพทย์ออโธปิติกส์
    • Mahidol Channel มหิดล แชนแนล. (2020, October 27). ‘ออร์โธปิดิกส์’ จริง ๆ แล้วหมายถึงอะไร? ดูเบื้องหลังการทํางาน “หมอกระดูก” [หาหมอ by Mahidol Channel] [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=E3RdTfis-1c

คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช. (2022, June 14). MEDIGATOR กว่าจะเป็น. . .แพทย์เฉพาะทาง : ออร์โธปิดิกส์ [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=kCgUaRhjWXg